พาราเซตามอล ยาแก้ปวด ลดไข้ กินอย่างไรให้ปลอดภัย
พาราเซตามอล ยาแก้ปวด ลดไข้ กินอย่างไรให้ปลอดภัย
พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในชื่อ "ยาแก้ปวด ลดไข้" เป็นยาที่หาได้ง่ายและมักถูกใช้เป็นประจำ ทั้งในกรณีไข้หวัด ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรือแม้แต่ปวดประจำเดือน แต่รู้หรือไม่ว่า หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตับได้
บทความนี้จะมาแนะนำการ กินยาพาราเซตามอลอย่างไรให้ปลอดภัย เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ยาอย่างถูกวิธีและไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงในระยะยาว
2. กินยาพาราเซตามอลอย่างไรให้ปลอดภัย
3. ผลข้างเคียงและความเสี่ยงของพาราเซตามอลมีอะไรบ้าง
4. คำแนะนำในการกินยาพาราเซตามอล
5. หากกินยาพาราเซตามอลเกินขนาดต้องทำอย่างไร
พาราเซตามอลคือยาอะไร
พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือในบางประเทศเรียกว่า อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) เป็นยาในกลุ่ม Non-opioid Analgesics ที่ออกฤทธิ์ลดไข้และบรรเทาอาการปวดได้ดี แต่ ไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต่างจากยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน หรือแอสไพริน
ประเภทของยาพาราเซตามอล
พาราเซตามอลมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ได้แก่:
- ยาเม็ด / ยาแคปซูล: รูปแบบที่พบบ่อย เหมาะสำหรับผู้ใหญ่
- ยาน้ำ: เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ปรับปริมาณตามน้ำหนักตัว
- ยาสอด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ยาเม็ดละลายน้ำ / ยาเม็ดฟู่: เหมาะสำหรับผู้ที่กลืนยายาก
สรรพคุณของพาราเซตามอล
- บรรเทาอาการปวด เช่น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ
- ลดไข้ ไข้จากหวัดหรือไข้ไม่ทราบสาเหตุ
- ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากระเพาะ
กินยาพาราเซตามอลอย่างไรให้ปลอดภัย
แม้พาราเซตามอลจะดูเป็นยาที่ปลอดภัยและใช้ง่าย แต่ควรระมัดระวังเรื่องการใช้และรู้วิธีที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
- ปริมาณที่แนะนำ
- ผู้ใหญ่: ขนาดยาแนะนำอยู่ที่ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อครั้ง กินทุก ๆ 46 ชั่วโมง ไม่ควรเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- น้ำหนัก 34-50 กิโลกรัม: รับประทานครั้งละ 1 เม็ด
- น้ำหนักมากกว่า 50-67 กิโลกรัม: รับประทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง (ไม่เกินวันละ 5 ครั้ง)
- น้ำหนักมากกว่า 67 กิโลกรัม: รับประทานครั้งละ 2 เม็ด (ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง)
- เด็ก: ควรปรับขนาดยาตามน้ำหนักตัว และควรให้แพทย์หรือเภสัชกรเป็นผู้แนะนำ
- ผู้ใหญ่: ขนาดยาแนะนำอยู่ที่ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อครั้ง กินทุก ๆ 46 ชั่วโมง ไม่ควรเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ไม่ควรกินร่วมกับยาอื่นที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลซ้ำซ้อน เช่น ยาแก้หวัดหลายชนิด
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการใช้ยา เพราะเพิ่มความเสี่ยงต่อตับ
ผลข้างเคียงและความเสี่ยงของพาราเซตามอล
แม้ยาพาราเซตามอลจะเป็นยาที่ปลอดภัย หากใช้อย่างถูกวิธี แต่หากใช้เกินขนาด หรือใช้ผิดวิธีอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ตามมาได้ เช่น
- พิษต่อตับ เช่น ตับอักเสบ ตับวาย โดยเฉพาะเมื่อรับประทานเกินขนาดหรือดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย
- อาการแพ้ยา เช่น ผื่นคัน หากแพ้รุนแรง อาจมีอาการบวม ปากบวม หายใจลำบาก ควรหยุดยาและรีบพบแพทย์
- คลื่นไส้ อาเจียน หากกินขณะท้องว่าง (พบได้น้อย)
คำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้ยาพาราเซตามอล
1. อ่านฉลากก่อนใช้ ตรวจสอบปริมาณยา และส่วนประกอบของยา
2. ไม่ควรกินยาซ้ำหากยังไม่ครบเวลา 46 ชั่วโมง
3. ไม่ใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน โดยไม่ปรึกษาแพทย์
4. เลือกชนิดยาให้เหมาะกับอายุ และสุขภาพของผู้ใช้
5. หากมีโรคตับอยู่ก่อนแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
หากกินยาพาราเซตามอลเกินขนาดต้องทำอย่างไร
การรับประทานพาราเซตามอลเกินขนาดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบว่ามีผู้รับประทานยาเกินขนาด
- ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีโดยไม่ต้องรอให้เกิดอาการ เพราะพิษต่อตับอาจแสดงอาการหลัง 24-72 ชั่วโมง
- หากเป็นไปได้ ควรนำยาที่เหลือ รวมถึงกล่องยา หรือเอกสารกำกับยาติดตัวไปด้วย เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำยิ่งขึ้น
หลังจากรับประทานยาเกินขนาด บางรายอาจมีอาการ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรือรู้สึกไม่สบายตัว แต่ในบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ เลยในระยะแรก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย ดังนั้นไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ ควรได้รับการตรวจและรักษาจากแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะตับถูกทำลายอย่างรุนแรง